อาหารเสริมโปรตีน
อาหารเสริมโปรตีน โปรตีนคือสารอาหารหลักที่ร่างกายใช้เพื่อเสริมสร้าง ซ่อมแซม และรักษาเนื้อเยื่อภายในร่างกาย โปรตีนเป็นส่วนประกอบของทุกๆเซลล์ เนื้อเยื่อ รวมทั้งอวัยวะในร่างกาย โปรตีนประกอบขึ้นจากกรดอะมิโนหลายชนิดมาเรียงต่อกัน กรดอะมิโนมี 20 ประเภทที่ร่างกายปรารถนา กรดอะมิโนจะรวมตัวกันเพื่อสร้างโปรตีนประเภทต่างๆกรดอะมิโนแบ่งเป็น กรดอะมิโนจำเป็นต้องมี 8 จำพวกซึ่งร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างเองได้
จึงต้องได้รับจากการทานอาหารเท่านั้น ส่วนกรดอะมิโนไม่จำเป็นมี 12 ประเภท ร่างกายสามารถสร้างเองได้โปรตีนในร่างกายของเรานั้นมีการย่อยสลายและสร้างใหม่อยู่ตลอด ร่างกายไม่ได้เก็บสะสมกรดอะมิโนไว้ราวกับที่เก็บสะสมคาร์โบไฮเดรตรวมทั้งไขมัน อาหารเสริม โปรตีน ด้วยเหตุนั้น ร่างกายก็เลยอยากได้กรดอะมิโนแต่ละวัน เพื่อผลิตโปรตีนใหม่ทุกวันโปรตีนในของกินที่เราทานเข้าไปจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนที่สามารถประยุกต์ใช้เพื่อชดเชยโปรตีนที่สลายไปในร่างกายของพวกเราได้
โปรตีนประเภทต่างๆในของกินมีอะไรบ้าง
มีโปรตีนหลายชนิดในอาหาร แบ่งเป็นโปรตีนสมบูรณ์และก็โปรตีนไม่สมบูรณ์ โปรตีนประสิทธิภาพหรือโปรตีนสมบูรณ์ ระบุได้จากกรดอะมิโนที่เป็นองค์ประกอบ แหล่งของโปรตีนที่สมบูรณ์นั้นเป็นโปรตีนที่ให้กรดอะมิโนจำเป็นต้องทั้งหมดทั้งปวง แหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์มีคุณภาพมาจากสัตว์ (ยกตัวอย่างเช่น ไข่ นม เนื้อ เป็ดไก่ และก็ปลา)และก็ของกินที่ทำจากถั่วเหลือง (เช่น เต้าหู้ เทมกระเป๋า) ราวๆ 75 % ของโปรตีนที่เราทานเข้าไปจากอาหารจะต้องเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์
หรือควรจะเป็นโปรตีนประสิทธิภาพสูง แหล่งของโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์คือแหล่งที่มีกรดอะมิโนจำเป็นต้องต่ำโปรตีนจากพืชส่วนมาก (ดังเช่น พืชเชื้อสายถั่ว) เป็นโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากมีกรดอะมิโนจำเป็นต้องไม่ครบทุกประเภทโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์บางทีอาจเอามารวมกันได้ (ดังเช่นว่า ถั่วรวมทั้งข้าว นมแล้วก็เมล็ดพืช) เพื่อได้รับโปรตีนที่มีคุณภาพพอเพียงรวมทั้งเปรียบเทียบกับโปรตีนที่บริบูรณ์
เลือกโปรตีนอย่างชาญฉลาดเพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง
1.เนื้อสัตว์ใหญ่
อีกทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู หรือเนื้อแกะนั้นเป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานสูง แม้กระนั้นบางทีก็มีไขมันและก็คอเลสเตอรอลอันเป็นสาเหตุของโรคเส้นโลหิตหัวใจตันได้ การกินเนื้อเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องเลือกที่ไม่ติดมัน ซึ่งจะเป็นเนื้อส่วนสะโพกรวมทั้งเนื้อส่วนหลังที่มีไขมันอิ่มตัวน้อยเท่าๆกับเนื้ออกไก่ไร้หนัง ที่สำคัญควรกินในขนาดพอควรรวมทั้งน้อยครั้งกว่าโปรตีนจากเนื้อไก่รวมทั้งเนื้อปลา โดยเนื้อสัตว์ใหญ่ 85 กรัมจะให้สารอาหารโปรตีนโดยประมาณ 22 กรัม
2.เนื้อเป็ดแล้วก็ไก่
เลือกกินเนื้อบริเวณอกที่ไม่ติดหนังเพื่อหลบหลีกไขมันอิ่มตัว แล้วก็ถ้าเกิดเป็นเนื้อเป็ด เนื้อไก่งวง หรือเนื้อนกก็จะยิ่งมีไขมันน้อยกว่าเนื้อไก่ ทั้งนี้ไก่ 85 กรัม จะให้โปรตีนประมาณ 31 กรัม มากกว่าครึ่งของโปรตีนที่ร่างกายอยากในทุกวันคราวเลยเดียว
3.เนื้อปลา
เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มักมีไขมันต่ำ แม้แต่ปลาที่ขึ้นชื่อว่ามีไขมันมากยิ่งกว่าปลาชนิดอื่นอย่างแซลมอนและก็ทูน่าก็ยังจัดว่าดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุว่าข้างในเนื้อปลานั้นไม่เพียงให้โปรตีน แม้กระนั้นยังมีกรดโอเมก้า 3 ที่ดีต่อหัวจิตใจ ซึ่งคนส่วนมากชอบได้รับโอเมก้า 3 ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับจำนวนที่แนะนำ การรับประทานปลาก็เลยนับว่าให้ผลดีถึงสองต่อ โดยเนื้อแซลมอน 85 กรัม นั้นให้โปรตีนโดยประมาณ 17 กรัม ส่วนปลาทูน่าหรือซาร์ดีนก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน แล้วก็ควรรับประทานอาหารจากปลาเหล่านี้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละโดยประมาณ 110 กรัม
4.ไข่
นับเป็นโปรตีนที่มีคุณค่าและราคาไม่แพง ไข่ 1 ฟองให้สารอาหารโปรตีนโดยประมาณ 6 กรัม และก็หากแม้ในไข่แดงจะมีคอเลสเตอรอลสูง แม้กระนั้นจากการศึกษาเล่าเรียนของงานศึกษาเรียนรู้หลายชิ้นพบว่าคอเลสเตอรอลในไข่มิได้ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงมากขึ้น แม้แม้กระนั้นเป็นของกินที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ที่น่าจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นสูงเกินไปกว่า สำหรับผู้มีสุขภาพแข็งแรง การกินไข่วันละ 1 ฟองก็เลยมิได้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ แต่ทว่าหากป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือมีภาวการณ์คอเลสเตอรอลในเลือดสูงอยู่แล้วต้องระวังรวมทั้งปรึกษาหมอเกี่ยวกับการรับประทานอาหารอะไรก็แล้วแต่ที่มีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งรวมทั้งไข่ด้วย
5.นมแล้วก็อาหารจากนมทั้งหลายแหล่
ยกตัวอย่างเช่น ชีส และโยเกิร์ต มีโปรตีนแล้วก็แคลเซียม ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ดีต่อหัวจิตใจ และก็เพื่อหลีกเลี่ยงแคลอรี่ที่กำลังจะได้รับ ให้เลือกสินค้านมไขมันต่ำ นมพร่องมันเนย รวมทั้งนมขาดมันเนย โดยนมขาดมันเนย 1 แก้ว ให้โปรตีนพอๆกับ 8 กรัม แต่ถ้าหากปรารถนาโปรตีนมากกว่านั้นก็บางทีอาจเลือกกรีกโยเกิร์ต (Greek Yogurt) ที่จะมีโปรตีนถึง 18-20 กรัมต่อ 1 ส่วน ซึ่งมากกว่าโยเกิร์ตธรรมดาถึง 2 เท่า
6.ถั่วเหลือง
อีกหนึ่งอาหารที่ให้โปรตีนในปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นเม็ดถั่วเหลือง เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ เต้าเจี้ยว หรือโปรตีนหนทางที่ทำมาจากถั่วเหลือง โดยถั่วเหลืองสุก 1 ถ้วย นั้นให้โปรตีนถึง 29 กรัม มากกว่าการรับประทานเนื้อสเต็ก 85 กรัมเสียอีก ส่วนน้ำนมถั่วเหลือง 1 แก้วก็ให้โปรตีนมากมายเกือบเทียบเท่ากับนมโดยทั่วไป ยิ่งไปกว่านี้ การรับประทานโปรตีนจากถั่วเหลืองแต่ละวัน วันละ 25 กรัมยังอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ อาหารเสริมโปรตีน แต่ว่าในเรื่องที่จะใช้อาหารเสริมจากถั่วเหลือง ควรต้องระวังและปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ด้วยเหตุว่าอาจไม่มีผลดีต่อคนที่กำลังรับการดูแลรักษาแบบฮอร์โมนบำบัดรักษาหรือมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม
7.ผัก ถั่ว และก็เมล็ดพืช
นับเป็นอีกแหล่งสารอาหารประเภทโปรตีนชั้นเลิศ โดยยิ่งไปกว่านั้นถั่วต่างๆอย่างเช่น ถั่วแดง ถั่วดำ ที่มีโปรตีนถึง 15 กรัมต่อถ้วย ส่วนถั่วลันเตาจะให้โปรตีน 9 กรัมต่อถ้วย ในเวลาที่มันฝรั่งหัวขนาดกลางให้โปรตีนเพียงแต่ 4 กรัมแค่นั้น ส่วนเมล็ดพืชต่างๆก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน โดยโปรตีน 8 กรัม เสมอกันกับเม็ดฟักทองหรือเมล็ดทานตะวันเพียงแค่ 1 ช้อนโต๊ะ แอลมอนด์ 12 เมล็ด พิตาชิโอ 24 เมล็ด วอลนัต 7 เมล็ด หรือเนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ ซึ่งการรับประทานถั่วเสมอๆทุกสัปดาห์บางทีอาจช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เป็นโรคหัวใจได้ แต่ว่าอย่าลืมว่าถั่วเป็นของกินที่มีแคลอรี่สูง ก็เลยไม่ควรกินเกินวันละ 14 กรัม
อาหารเสริมจากโปรตีนจำเป็นหรือไม่
โปรตีนอีกชนิดที่เริ่มนิยมกินมากขึ้นในตอนนี้ก็คือโปรตีนผง โปรตีนแท่ง ซึ่งเป็นอาหารเสริมจากโปรตีนประเภทต่างๆอย่างเช่น เวย์โปรตีน โปรตีนเคซีน หรือโปรตีนถั่วเหลือง เหล่านี้ต่างก็เป็นโปรตีนบริบูรณ์ โดยผู้ที่ไม่รับประทานสัตว์บางคนจะนิยมโปรตีนจากถั่วเหลืองมากกว่าชนิดอื่น แต่อาหารเสริมโปรตีนจากถั่วเหลืองบางชนิดอาจมีรสชาติที่ไม่ปรารถนานักรวมทั้งละลายได้ไม่ค่อยดีในน้ำสำหรับคำถามที่ว่าโปรตีนกลุ่มนี้ควรรับประทานหรือไม่แล้วก็ได้ผลดีเช่นไร
แท้จริงแล้วโปรตีนเสริมก็อาจมีคุณประโยชน์ในบางครั้ง เนื่องจากว่าเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์แล้วก็มีคุณภาพสูง แต่คนจำนวนมากหรือแม้แต่นักกีฬาเองก็รับสารอาหารโปรตีนได้อย่างสมบูรณ์จากแหล่งของกินทั่วไปอย่างเนื้อวัว หมู ไก่ ปลา ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนมอยู่แล้ว ดังนี้ ก็เลยทำให้มีความสำคัญเพียงแค่บางกรณีแค่นั้นที่แนะนำให้ใช้โปรตีนเสริม เช่น
1.วัยรุ่นซึ่งเป็นตอนวัยกำลังเติบโตและก็ต้องใช้โปรตีนเป็นพลังงานสำหรับการทำกิจกรรมต่างๆมากกว่าปกติ เพราะว่าร่างกายกำลังเติบโต
2.ผู้ที่เพิ่งจะเริ่มการออกกำลังกายและต้องการสร้างกล้าม เป็นอีกกลุ่มที่ต้องการโปรตีนมากกว่าปกติ
3.เมื่ออยากเพิ่มการออกกำลังกายกว่าระดับเดิมที่เคยทำอยู่ ได้แก่ ในกรณีที่เคยออกกำลังกายวันละ 30 นาที อาทิตย์ละเพียงแค่ 2-3 ครั้ง แต่ว่าต้องการไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอนก็จำเป็นต้องที่ร่างกายจึงควรได้รับโปรตีนมากกว่าเดิม
4.นักกีฬาที่เพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บซึ่งมักอยากได้โปรตีนมากยิ่งขึ้นเพื่อช่วยในการรักษาอาการบาดเจ็บ
5.คนที่ตกลงใจว่าจะรับประทานมังสวิรัติหรือเปล่ารับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับสารอาหารชนิดโปรตีนน้อยและก็อาจไม่พอ เพราะเหตุว่าการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นไก่ หมู ปลา และก็บางคราวก็รวมทั้งไข่แล้วก็ผลิตภัณฑ์จากนมด้วย
ความเลื่อมใสเกี่ยวกับการกินโปรตีน
1.โปรตีนช่วยลดหุ่น
เพราะเหตุว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงจะช่วยให้รู้สึกอิ่มแล้วก็หยุดความหิว ทำให้อาจก่อให้น้ำหนักลดน้อยลงในที่สุด แต่ว่าใช่ว่าจะเป็นโปรตีนประเภทใดก็ได้ เนื่องจากการรับประทานเนื้อติดมันหรือโปรตีนที่ผ่านการแปรเปลี่ยนรูปอย่าง แฮม เบคอน ไส้กรอก บางทีอาจไม่ช่วยทำให้ลดความอ้วนลงความเชื่อถือที่ว่าโปรตีนประเภทดีบางทีอาจช่วยลดความอ้วนได้นั้นสอดคล้องกับผลของการติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตและก็การทานอาหารของชายและหญิงจำนวนกว่า 120,000 คน
เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน 20 ปี ซึ่งผลพบว่าคนที่รับประทานเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วก็เนื้อใดๆก็ตามที่ผ่านกรรมวิธีการแปรรูป จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.45 โลทุกๆ4 ปี ในขณะที่กลุ่มรับประทานถั่วเปลือกแข็งมากกว่า ให้ผลลัพธ์เป็นน้ำหนักที่ต่ำลงประมาณ 0.22 กก.ในทุก 4 ปี นอกนั้น ยังมีงานค้นคว้าวิจัยหนึ่งชี้ว่า การกินเม็ดถั่วจำพวกต่างๆได้แก่ ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่นลันเตาทุกวี่ทุกวัน วันละ 1 ส่วน สามารถช่วยให้รู้สึกอิ่ม นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการควบคุมและก็ลดหุ่นที่ดีขึ้น
2.โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้าม
คนไม่ใช่น้อยที่อยากสร้างกล้ามมักกินโปรตีนเพราะว่ามั่นใจว่าสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อแขนได้ จากการรวบรวมรวมทั้งวิเคราะห์ผลเล่าเรียนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับมาจากโปรตีนในด้านการสร้างกล้ามนั้นพบว่า การกินโปรตีนเสริมอย่างสม่ำเสมอภายใต้การควบคุมดูแลจากแพทย์บางทีอาจช่วยเพิ่มมวลกล้ามแล้วก็สมรรถภาพในการออกกำลังกาย ถ้าหากมีการออกกำลังกายร่วมด้วยอย่างสม่ำเสมอ และก็ในระดับแล้วก็ระยะเวลาที่มากเพียงพอด้วย
ซึ่งจะแน่นอนไหมยังไม่บางทีอาจการันตีได้เด่นชัดในปัจจุบันดังนี้ การเสริมปริมาณโปรตีนเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการบริหารร่างกายนั้นไม่น่าจะมีส่วนช่วยเกื้อหนุนมวลกล้ามและความแข็งแรงให้เพิ่มขึ้นได้ รวมทั้งถ้าเกิดอยากกินโปรตีนเสริมควรขอความเห็นแพทย์ก่อนเสมอเพราะว่าการได้รับโปรตีนมากจนเกินความจำเป็นอาจมีผลร้ายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้เหมือนกัน
3.โปรตีนกับโรคกระดูกพรุน
เพราะในกรรมวิธีการย่อยโปรตีนจะเกิดการปล่อยกรดออกสู่กระแสเลือด ซึ่งการจะทำให้กรดกลุ่มนี้เป็นกลางจำเป็นต้องอาศัยแคลเซียมและก็สารอื่นๆทำให้อาจมีการดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้ เป็นต้นเหตุของความเชื่อที่ว่าการทานอาหารที่มีโปรตีนสูงเป็นระยะเวลานานอาจจะเป็นผลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกน้อยลง ทำให้กระดูกอ่อนแอรวมทั้งแตกหักง่ายอย่างไรก็ดี จากการรวบรวมข้อมูลด้านนี้ หลายงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยกล่าวว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงบางทีอาจมิได้เชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนหรือกระดูกหัก
เพราะว่าไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือการันตีได้ ในทางตรงกันข้ามโปรตีนยังคงจะส่งผลดีต่อความหนาแน่นของกระดูก นอกจากนี้ ผู้ที่มีความเชื่อนี้แล้วก็จำกัดการรับประทานโปรตีนจนกระทั่งน้อยเกินไป ยังอาจส่งผลให้ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอและก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ได้รับสารอาหารแคลเซียมต่ำ (น้อยกว่า 600 มก./วัน) เพื่อให้มีความปลอดภัยจะเสนอแนะให้หลีกเลี่ยงการกินอาหารโปรตีนสูงเกินพอดี (มากยิ่งกว่าวันละ 2 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโล)
4.โปรตีนกับโรคมะเร็ง
บางคนเลือกเลี่ยงการกินโปรตีนเนื่องจากว่ามีความคิดกันว่าอาจเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งก็พอเพียงจะมีงานค้นคว้าวิจัยที่หาคำตอบของความสัมพันธ์ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ส่วนใหญ่พบว่าเป็นเนื้อสัตว์ใหญ่ ดังเช่น เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อแกะ และก็เนื้อที่ผ่านแนวทางการแปรรูปที่อาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงสำหรับเพื่อการกำเนิดมะเร็งบางจำพวก อาทิเช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมทั้งโรคมะเร็งตับอ่อนทั้งนี้ จากการรวบรวมและประเมินการศึกษาที่ผ่านมา ในตุลาคม ปี 2015 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนว่าการบริโภคเนื้อที่ผ่านกระบวนการดัดแปลงจะทำให้ได้รับสารก่อโรคมะเร็งไปสู่ร่างกาย ส่วนเนื้อหมูหรือเนื้อวัวนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีสารก่อมะเร็งต่อมนุษย์เช่นกัน
5.โปรตีนกับโรคเบาหวาน
มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคอาหารจำพวกที่เป็นเนื้อสัตว์ใหญ่ ดังเช่นว่า หมู วัว โดยเฉพาะที่ผ่านขั้นตอนดัดแปลง จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเบาหวานสูงกว่าคนที่แทบจะไม่รับประทานอาหารดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น โดยการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ใหญ่ทุกๆ1 ส่วน นำมาซึ่งการทำให้การเสี่ยงของเบาหวานสูงมากขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่กินเนื้อแปรรูปจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์นอกจากนี้
ยังมีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยชี้ว่าผู้ที่เริ่มกินเนื้อแดงมากกว่าปกติ มีโอกาสกำเนิดเบาหวานมากขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ใน 4 ปีต่อมา แล้วก็พบว่าคนที่ลดปริมาณของการรับประทานเนื้อประเภทนี้จะมีความเสี่ยงลดลง 14 เปอร์เซ็นต์ในตอน 10 ปีต่อมา ซึ่งแม้จะยังไม่อาจจะระบุได้แน่ว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่จะชมรมกับโรคมะเร็งแน่หรือไม่ แต่ทางที่ดีควรจะรับประทานแต่น้อยแล้วก็เลือกแหล่งโปรตีนจำพวกดีอื่นๆทดแทน
6.โปรตีนกับโรคหัวใจรวมทั้งเส้นโลหิต
การรับประทานเนื้อหมูหรือเนื้อวัวถึงแม้ในจำนวนเพียงแค่เล็กๆน้อยๆอาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคหัวใจ โรคเส้นโลหิตในสมอง แล้วก็มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจหรือโรคอื่นๆแต่ว่าในขณะเดียวกันการกินโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ เนื้อเป็ด ไก่ รวมทั้งถั่วต่างๆแทนโปรตีนเหล่านี้ก็ดูเหมือนจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคดังที่กล่าวถึงมาแล้วให้ลดลงได้แบบอย่างงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งที่ช่วยเหลือใจความข้างต้น ศึกษาเล่าเรียนกับชายและก็หญิงปริมาณ 120,000 คน เป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี โดยจะให้อาสาสมัครพวกนี้ทำแบบสอบถามเพื่อประเมินทุก 4 ปี
ซึ่งบทสรุปพบว่าการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ใหญ่ที่มีการดัดแปลงทุก 85 กรัมในแต่ละวัน นำมาซึ่งการทำให้การเสี่ยงต่อการตายด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 13 เปอร์เซ็นต์เหมือนกับอีกงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยที่เล่าเรียนในเรื่องคล้ายคลึงกัน คำตอบชี้ว่าการรับประทานเนื้อไก่ ถั่วเปลือกแข็ง ปลา นมพร่องมันเนย หรือแม้กระทั้งนมที่มีไขมันเต็มส่วน ล้วนนำมาซึ่งการทำให้มีอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองลดต่ำลงเมื่อเทียบกับเนื้อแดงหรือเนื้อสัตว์ใหญ่ ด้วยผลวิจัยที่มีออกมาในปัจจุบัน เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อสัตว์ใหญ่ทั้งหลายจึงบางทีอาจไม่ใช่ตัวเลือกแหล่งของกินโปรตีนที่ดีเท่าไรนัก จึงไม่ควรกินบ่อยหรือมากมายไปนัก