รักจังวะ ผิดจังหวะ

รักจังวะ ผิดจังหวะ

รักจังวะ ผิดจังหวะ เรื่องการแอบรักเพื่อนที่ยืดยาวยืดเยื้อจนเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะว่าด้วยเรื่องราวของ กาย (รับบทโดย สกาย-วงศ์รวี) และ จูน (รับบทโดย จูเน่-เพลินพิชญา) ทั้งคู่รู้จักกันเพราะเหตุบังเอิญ ซึ่งกายก็แอบหลงรักจูนมาโดยตลอดแต่ไม่เคยบอกความจริง แถมจังหวะเวลาและสถานการณ์ก็ไม่เคยจะเป็นใจให้เขาได้สมหวังกับจูน รักจังวะ ผิดจังหวะ จังหวะเวลาสลับไปมา ตอนจูนมีแฟน กายก็โสด พอตอนจูนโสด กายดันมีแฟน สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ สามารถรับชมได้ทาง Netflix

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนตัวผมดูมาตั้งแต่ตอนเข้าโรงแล้วแต่ตอนนั้นลืมรีวิว พอเห็นมาเข้า Netflix ก็เลยซ้ำอีกซักรอบและถือโอกาสมารีวิวเสียเลย ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบหนังเรื่องนี้พอตัวเลย ยกให้เป็นหนังรักจาก GDH ที่ผมชอบในรอบหลายปีเลย เพราะทุกอย่างมันมาในจังหวะคลาสสิคของ GDH มากๆ ทั้งการเล่าเรื่อง การตัดต่อ การใส่มุขตลก มันลงตัวและโบ๊ะบ๊ะพอดีไปหมด การเลือกใช้เสียงมาช่วยเล่าเรื่องก็ทำให้ตัวหนังมีความสนุกและน่าติดตามมากขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้เจ๋งขึ้นคือมันมีความร่วมสมัยมากๆ ความรักในเรื่องและสถานการณ์ต่างๆ มันโคตรจริงไปหมดเลย มันคือชีวิตของเด็กมหาลัยในยุคนี้จริงๆ ทั้งเรื่องที่นางเอกสวยแต่นิสัยเฟรนลี่ ทำให้ผู้ชายมาจีบเยอะจนถูกมองไม่ดีและไม่มีเพื่อน มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมทุกวันนี้

รีวิว OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะอีกอย่างที่ทำให้หนังเรื่องนี้พิเศษคือเขาเล่าเรื่องไวมากๆ และใช้เวลาทุกนาทีได้อย่างคุ้มค่า คือหนัง 2 ชั่วโมงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องมันเยอะมากๆ เล่าตั้งแต่มหาลัยยาวไปจนเรียนจบไปแล้วหลายปี เขาเลือกนำเสนอแต่เหตุการณ์สำคัญๆ อย่างเดียวเลย คือแค่ 20 นาทีแรกก็เล่าเรื่องไปไกลแล้ว รายละเอียดเยอะมาก ซึ่งมันดีมากๆ ทำให้ตัวหนังไม่น่าเบื่อเลย ดูเพลินมากๆ อีกอย่างตัวละครสมทบในเรื่องทุกตัวที่ออกมาก็ล้วนดีไซน์ออกมาได้ดีมากๆ ทั้งเพื่อนของนางเอกและเพื่อนของพระเอก ทุกตัวละครมีบทบาทและน่าจดจำทั้งหมดเลย ส่วนด้านการแสดงอันนี้คือดีเช่นกัน คนที่โดดเด่นสุดคงจะเป็นจูเน่ที่แสดงบทจูนได้ดีเกินคาดมากๆ ส่วนสกายก็แสดงได้ดีตามมาตรฐานของเขาเลย ไม่ได้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่เคยแสดงมาเท่าไหร่ ส่วนคนที่แย่งซีนที่สุดในเรื่องคงหนีไม่พ้น ต๊ะ เพื่อนพระเอกที่เรียกเสียงฮาให้เราได้ตั้งแต่ต้นจนจบ อีกคนก็พีช พชร ที่ในเรื่องนี้บทพี่แกเท่เอามากๆ

รีวิว OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะส่วนด้านงานภาพการโปรดักชั่น

อันนี้คือดีหมดเช่นกัน ไม่มีตรงไหนรู้สึกขัดหรือแปลกตาเลย เพลงในเรื่องเพราะและดีทุกเพลง อีกส่วนที่ชอบมากๆ คือจังหวะนรกในหนัง คือมันเยอะมากและก็ฮาทุกซีน คือสมกับชื่อเรื่องเลยผิดจังหวะของจริง อย่างฉากที่พระเอกไปคุยกับสาวและสาวบอกว่าตดอันนี้ก็ฮาและโคตรน่าจดจำเลย แถมยังเอามาใช้ต่อตอนท้ายได้อย่างเหมาะเจาะด้วย ส่วนสุดท้ายคือบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่มันอาจจะขัดใจใครหลายคนเพราะสุดท้ายดูเหมือนทั้งคู่อาจจะสานสัมพันธ์กันต่อได้ สิ่งที่ผมมองว่าอาจขัดใจหลายคนคือตอนที่ทั้งคู่จูบกันทั้งที่จูนมีแฟนอยู่แล้ว

แถมกายยังทำตัวโง่ๆ ด้วยการไปบอกแฟนเขา ซึ่งมันน่าหงุดหงิดจริงแต่มันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริงๆ ผมจึงไม่ได้ติดใจอะไรในส่วนนี้ และด้วยความที่มันดูเกิดขึ้นได้จริงๆ เนี่ยแหละที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้ สรุปโดยรวมเลยคือเป็นหนังรอมคอมวัยรุ่นอีกเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ดูจริงๆ รับรองว่าไม่รู้สึกเสียเวลาแน่นอน ส่วนจะถูกใจไม่ถูกใจนั่นอีกเรื่อง ทุกคนต้องไปดูกันเอาเอง ปล.เพลง “คืนวันศุกร์” ที่ใช้ประกอบหนังเรื่องนี้ก็ติดหูมากๆ จำได้เลยว่าตอนดูครั้งแรกติดฟังเพลงนี้อยู่เป็นอาทิตย์เลย

หลังจากเข้า Netflix ได้เพียงแค่ 3 วัน ภาพยนตร์ OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ ของ GDH ได้กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเรื่องของตอนจบที่ดูเหมือนผู้ชมจะแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย บ้างก็ว่าสมจริง บ้างก็ว่าเป็นภาพยนตร์ของคนเห็นแก่ตัว ไปจนถึงมีการกล่าวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้โรแมนติไซส์เรื่องของการนอกใจ!

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเพราะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาคือ ความสัมพันธ์ของตัวละครอย่างกาย (รับบทโดย สกาย-วงศ์รวี นทีธร) พีท (รับบทโดย พีช-พชร จิราธิวัฒน์) และจูน (รับบทโดย จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน) นั้นเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเคยพบเจอในชีวิตจริง และด้วยความที่เรื่องราวของตัวละครผูกโยงเข้ากับความเป็นจริงก็ทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหลากหลายไปจนถึงขั้น ‘เสียงแตก’ ในการกระทำของตัวละครว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว หรือเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวสีเทาในตัวของมนุษย์

สมควรได้ดี หรือมอดไหม้?
แน่นอนว่าตัวละครที่ถูกพูดถึงมากที่สุดจากคนดูคงหนีไม่พ้นพระเอกของเรื่องอย่าง กาย ที่ว่ากันตามตรงการกระทำของเขาล้วนทำให้คนดูส่วนใหญ่ถึงกับต้องอุทานคำหยาบออกมา แต่ถึงกระนั้น หากพิจารณาจากสิ่งที่ชายหนุ่มทำไม่ว่าจะเป็นการไม่ซื่อสัตย์กับตัวเอง หาคนมาคบเพื่อคั่นเวลา ไปจนถึงการทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่น ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึง ‘ความเห็นแก่ตัว’ ของมนุษย์ประเภทหนึ่ง

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้คนดูหลายคนสาปส่ง กาย อย่างถึงที่สุดคงเป็นเรื่องของการที่ชายหนุ่มขาดความยับยั้งช่างใจจนการกระทำของตัวเองส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างใหญ่หลวง มิหนำซ้ำยังไม่เรียนรู้จากสิ่งที่พี่สาวต้องเผชิญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำกับคนอื่น

แม้จะเป็นแบบนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องยอมรับคือ ตัวละครอย่าง กาย มีตัวตนอยู่จริง และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนดูบางส่วนถึงไม่สามารถยอมรับในการกระทำของชายหนุ่มได้ บางทีสิ่งที่คนดูอยากจะเห็นจากกายมากที่สุดอาจไม่ใช่การเรียนรู้ หรือการที่ตัวละครได้ดิบได้ดีจนสมหวัง หากแต่เป็นการที่ชายหนุ่มมอดไหม้ไปพร้อมกับความเห็นแก่ตัวของตัวเอง

หรือนี่คือความจริงของชีวิต?

ถึงกายจะเป็นตัวละครที่ถูกคนดูวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด แต่อีกหนึ่งคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ จูน เพราะหากมองดูแล้วเธอที่เป็นเหมือนคนที่อยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างสองชายหนุ่มที่สามารถตัดสินได้ว่าตัวเองจะเลือกใคร เพียงแต่สิ่งที่ดูจะขัดแย้งกับความรู้สึกของคนดูบางส่วนมากที่สุดคือการที่ จูน ‘เลือก’ ตัวละครอย่างกายแทนที่จะเป็นชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมอย่างพีท

คำถามที่หลายคนสงสัยที่สุดอาจเป็นการที่จูนลังเลในความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อกาย แต่กลับเลือกที่จะคบกับพีทแทน และเพราะเหตุใดพีทที่เป็นคนดีถึงต้องมารับเคราะห์กรรมจากความรู้สึกระหว่างคนทั้งสอง สิ่งนั้นเองที่ทำให้คนดูส่วนใหญ่รู้สึกว่าสถานะของพีทท่ามกลางความสัมพันธ์ของกายและจูนช่างดูละม้ายคล้ายคลึงกับสิ่งที่ตัวเองเคยพบเจอมาจนแทบจะไม่อยากเชียร์ให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไปได้ด้วยดี แต่อย่างที่ทราบกันท้ายที่สุดแล้วกายกับจูนต่างก็แตกสลายเพราะการกระทำของตัวเอง

อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองย้ำเตือนแก่คนดูอยู่เสมอคือ ‘อย่าเป็นคนแบบตัวละครในภาพยนตร์’ เพราะอย่างไรการแก่งแย่งคนรักไปจากผู้อื่นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนมีศีลธรรมอันดีสมควรพึงกระทำ และตัวละครอย่างพีทเองก็เหมือนภาพสะท้อนของความจริงที่ว่า ‘การเป็นคนดีไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก’

นำเสนอผิดทาง หรือมันสมจริงเกินไป?
จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา สิ่งที่ดูจะเป็นปัญหาจริงๆ ที่ทำให้คนดูบางส่วนรู้สึกไม่พอใจในตัวของภาพยนตร์ก็อาจเป็นการที่ภาพยนตร์เลือกที่จะหาทางลงให้กับตัวละครอย่างกายได้มีความสุข ไปจนถึงเปิดช่องให้กับความสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ฉะนั้น การที่คนดูบางส่วนจะตีความว่าภาพยนตร์เรื่องนี้โรแมนติไซส์เกี่ยวกับการนอกใจก็อาจไม่ใช่เรื่องผิดเสียทีเดียว เพราะตัวละครที่เห็นแก่ตัวแบบกายไม่สมควรที่จะมีความสุขและได้รับการยอมรับจากใคร แต่สิ่งที่ภาพยนตร์ทำคือการให้ชายหนุ่มได้รับสิ่งเหล่านั้นรวมไปถึงโอกาสอย่างเต็มที่ ซึ่งมันอาจเป็นเหมือนกับการเห็นดีเห็นงามในสิ่งที่ตัวละครได้กระทำลงไป

ถึงกระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจมองได้ว่ามันช่างสมจริงเสียเหลือเกินในเมื่อเรายังเห็นคนที่ทำตัวแบบกายประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก และคนอย่างพีทถูกเมินเฉยในความสัมพันธ์ ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการจะนำเสนอ เพียงแต่ในตอนท้ายของเรื่อง บทสรุปจากการกระทำทั้งหมดของตัวละครอาจเป็นผลลัพธ์ที่ใครหลายคนคาดไม่ถึง หรือยากเกินกว่าจะรับได้

สุดท้ายนี้คำตอบที่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดีหรือไม่ดีล้วนเป็นคำตอบส่วนบุคคล อาจมีการวิพากษ์วิจารณ์ ก่นด่า หรือกระทั่งสาปแช่งตัวละครไปจนถึงภาพยนตร์ที่ดูรุนแรงไปบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่ชัดคือมันได้ทิ้งบางอย่างเอาไว้ให้กับคนดูได้ไปขบคิดต่อไม่ว่าจะในทางที่ดีหรือไม่ดี สมจริงหรือไม่สมจริงก็ตาม

เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงที่มาที่ไปของหนุ่มนักเรียน หนังที่หวังจะมีรักเรียบง่ายแบบไปตามจังหวะชีวิต แต่ดันติดที่ว่า รักง่ายๆ ที่หมายจะมี กลับมาผิดจังหวะแบบไม่ตั้งใจ เพราะจูน สาวสวยใสที่ใครๆ ก็หลงชอบกลับกลายเป็นแฟนของเพื่อนสนิทไปเสียแล้ว ทั้งหมดที่ตามมานั้นก็คือ เรื่องราวของการรอ จังหวะเสียบ เล่นล้อไปกับการท้าชะตาชีวิตจากพระเจ้า เริ่มตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จัก วันต่อมาที่การตกหลุมรัก วันที่รอเลิกรา วันที่อกหัก ไปจนถึงวันที่รอการหวนคืน ซึ่งมาพร้อมกับการพัฒนาของตัวละคร ในเชิงกายภาพที่แสดงให้เห็นว่าเสื้อผ้า หน้าผมเปลี่ยนแปลง ไปตามอารมณ์ความรู้สึก วันเวลา สถานที่ และสถานะอย่างไร

ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดในจุดนี้ก็คือ โปรดักชั่น ที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว และเอาอยู่ ตามโจทย์ที่ถูกตั้งมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า หนังรักที่ทำโดยคนเจนซี ด้วยคนเจนซี เพื่อคนเจนซี ฉะนั้นแล้วจงวางใจได้ว่า ทุกองค์ประกอบในหนังเรื่องนี้ จะมาพร้อมกับความคุ้นตาที่เราพบเจอได้ในยุคสมัยนี้ ซึ่งหลายคนก็คงค้นพบว่า สถานที่เกิดเหตุ ไปจนถึงพฤติกรรมตัวละคร ต้องมีทางใดทางหนึ่งที่โดน และตรงกับตัวเองแบบไม่ช้อตฟีลอย่างแน่นอน ซึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับอย่าง พงศ์-ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ผู้กำกับมิวสิควิดีโอที่มีผลงานโด่งดังระดับหลายร้อยล้านวิวไปจนถึงพระ-นางคู่ใหม่ในวงการภาพยนตร์อย่าง สกาย-วงศ์รวี นทีธร และ “จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน” พร้อมทั้งดาราร่วมอย่าง พีช-พชร จิราธิวัฒน์, พลอย หอวัง, ปันปัน ยีย์ยีย์, ต๊ะ ศิวัช, ไมเคิล พิว, เหมย ณภัสนันท์ และ เล็ก วสุ

ความรู้สึกที่เราได้และความประทับใจจากหนังเรื่องนี้ มีอยู่อีกหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับไอเดียของการสื่อสารผ่าน โซเชียลมีเดียของคนในยุคนี้ ที่มักจะต้องพึ่งพาให้จังหวะเป็นใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ การสื่อสาร และสั่งสอนจากคนภายในครอบครัวที่ล้วนแต่เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ตัวละครยังคงเดินหน้าในชีวิตต่อไปได้ การสื่อสารโดยใช้เพลงประกอบภาพยนตร์ เพื่อเล่าถึงความรู้สึกภายในใจของตัวละคร การสื่อสารระหว่างเพื่อนที่เพียงแค่มองตาก็เข้าใจ ไปจนถึงการสื่อสารระหว่างตัวละครประกอบอื่นๆ ที่เป็นเสมือนคนนอกแต่กลับสร้าง อิมแพคให้เกิดขึ้นกับตัวละครหลัก ได้อย่างน่าสนใจ

​“OMG! รักจังวะ..ผิดจังหวะ เป็นหนังที่ผมได้แรงบันดาลใจมาจาก

คนสำคัญรอบตัวในชีวิตผมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น พี่สาว น้องสาว หัวหน้างานคนแรก เพื่อนๆ ที่ทำงาน หรือเพื่อนๆ สมัยเรียน ที่นำเรื่องราวมาใส่ในหนังเรื่องนี้ เล่าเรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบคนที่มีแฟนแล้ว แล้วก็รอจังหวะมาตลอดว่าเมื่อไหร่จะถึงเวลาของเขาเสียที แต่จังหวะนั้นก็ไม่เคยมาถึง เหมือนถูกพระเจ้า กลั่นแกล้งไม่ให้สมหวัง และ นี่ก็ถือว่านี่เป็น หนังเรื่องแรกของผมเลย” พงศ์ ผู้กำกับ เล่าถึงความตั้งใจของเขา ซึ่งดูเหมือนว่า ในวันนี้มาได้อย่างถูกจังหวะ กับการนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ในวัน และเวลาที่ผู้ชมที่เป็นกลุ่มหลักของโรงภาพยนตร์ ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ยังคงกระหายการเสพภาพยนตร์ และเรื่องราวดีๆ จากผู้กำกับหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับ ไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ และนี่คือการ รีวิวหนัง จากเรา

moonbigpapi