ผลิต อาหารเสริม
ผลิต อาหารเสริม อาหารเสริม (Complementary foods) ทางการปรุงยาคือ อาหารที่ให้รับประทานเพิ่มเติมอีกนอกเหนือจากอาหารหลัก (อาหารมีคุณประโยชน์ 5 กลุ่ม ที่ได้รับ 3 มื้อต่อวัน) โดยการให้อาหารเสริมมีจุดประสงค์ต่างๆดังเช่น เพื่อช่วยทำให้สุขภาพดี เพื่อเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ผลิตอาหารเสริม หรือเพื่อช่วยให้ร่างกายมีการเติบโตที่ดี ฯลฯอนึ่ง ในเนื้อหานี้ จะเอ๋ยถึง อาหารเสริม “เฉพาะในคนสามัญเท่านั้น” ที่ไม่ใช่คนบาดเจ็บเจ็บไข้/ผู้เจ็บป่วย ด้วยอาหารเสริมของผู้เจ็บป่วยแต่ละคน จะขึ้นกับแต่ละโรคของคนป่วยศูนย์รวมถึงสุขภาพที่เกิดขึ้นกับร่างกายด้วย เพราะฉะนั้นก็เลยต่างกันในแต่ละกรณีโดยจะขึ้นอยู่กับคำเสนอแนะของ แพทย์ แล้วก็พยาบาล ของคนเจ็บที่จะไม่เหมือนกันเป็นรายคนป่วยไป
หมายเหตุ: ทางเภสัชกรรม “อาหารเสริม”จะไม่เหมือนกันกับ “ผลิตภัณฑ์เสริมของกิน (Dietary supplement)”
โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะคือ สินค้าที่ใช้รับประทานนอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติ โดยจะมีส่วนประกอบของสารอาหาร แล้วก็อาจมีองค์ประกอบอื่นๆได้แก่ โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆและก็ ใยอาหาร ฯลฯ สินค้าเสริมอาหาร ไม่มีผลสำหรับในการคุ้มครองปกป้องหรือรักษาโรค รวมทั้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับคนทั่วๆไปที่ต้องการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย ไม่ใช่ผู้เจ็บป่วย แต่อย่างไรก็ดี คนสามัญมักรู้เรื่องว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และก็อาหารเสริม คือเหมือนกัน รวมทั้งมักเรียกรวมๆว่า “อาหารเสริม”อาหารเสริม แบ่งเป็นกี่จำพวก?
1.อาหารเสริม สำหรับทารก รวมทั้งเด็กตัวเล็กๆ : อาทิเช่น ข้าวบด, ผักสุกบด ดังเช่นว่า ฟักทอง , ผลไม้สุก ได้แก่ มะละกอสุก กล้วยน้ำว้าสุก, ตับบด
2.อาหารเสริม สำหรับหญิงตั้งครรภ์ : อาทิเช่น ข้าว, นม, เนื้อสัตว์ต่างๆโดยเฉพาะเนื้อปลา, ผักรวมทั้งผลไม้ที่นานัปการ
3.อาหารเสริม สำหรับผู้สูงอายุ : ได้แก่ ข้าวที่ผ่านการขัดสีน้อย ดังเช่นว่า ข้าวกล้อง, นมเสริมแคลเซียม, ปลาเล็กปลาน้อย, ผักผลไม้ที่มีปริมาณกากใยอาหารสูง เช่น ผักบุ้ง สะเดา ผักคะน้า, เนื้อปลาสำหรับเด็กโต แล้วก็คนแก่ปกติ ซึ่งเป็นวัยซึ่งสามารถกินอาหารมีคุณประโยชน์ 5 หมู่ได้ครบในทุกมื้ออาหาร หรือขั้นต่ำในวันแล้ววันเล่า เป็นวัยที่ไม่จำเป็นต้องได้รับอาหารเสริม ด้วยเหตุว่าสมารถยนต์ทานอาหารได้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกหมู่ของกินซึ่ง อาหารเสริมก็รวมอยู่ในของกินหลักแต่ละมื้อแล้ว
สินค้าเสริมอาหาร VS อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และจากยูนิลิเวอร์ไลฟ์
ที่แนะนำน่าไว้วางใจว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของคนสามัญ เวลาที่ร่างกายต้องการกำลังเสริมไม่ว่าจะสุขภาพหรือผิวพรรณ คำว่า “อาหารเสริม” ชอบผุดขึ้นมาก่อนเสมอ รวมทั้งแปลงเป็นคำคุ้นเคยสำหรับเพื่อการค้นหาผลิตภัณฑ์เสริมต่างๆเพื่อรองรับในสิ่งที่ต้องการ แม้กระนั้นผู้ใดกันจะรู้บ้างว่าแท้จริงแล้วพวกเรากำลังใช้คำที่ไม่ถูกความหมายกันอยู่ อาหารเสริมสามารถแบ่งการกินได้อย่างไรโดยส่วนมากการรับประทานอาหารเสริมนั้นจะแบ่งตามช่วงอายุ ด้วยเหตุว่าการเติบโตแล้วก็สิ่งที่มีความต้องการสารอาหารในแต่ละช่วงวัยนั้นไม่เหมือนกัน
1.เด็กอ่อนอายุมากกว่า 6 เดือน เว้นเสียแต่น้ำนมแม่แล้ว เราชอบเสริมด้วยข้าวบดละเอียดเหมือนโจ๊ก ผักต้มสุกบด ได้แก่ ฟักทอง หรือผลไม้สุกอย่างมะละกอ แล้วก็กล้วยน้ำว้าบดป้อนเสริมในบางครั้ง
2.เด็กตัวเล็กๆ วัยนี้เป็นวัยที่เริ่มเลือกรับประทานอาหาร จึงทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบสมบูรณ์และมีผลต่อการเติบโต ให้เสริมเป็นไข่ต้ม เนื้อปลา เนื้อไก่ นม ผักที่ต้มสุกจนกระทั่งนุ่มแล้วก็ผลไม้หลายชนิด จัดแต่งให้ดูน่าทาน เพื่อเสริมวิตามินรวมทั้งคุ้มครองปกป้องการขาดสารอาหาร
3.หญิงมีครรภ์ เป็นช่วงๆวัยที่ปรารถนาสารอาหารหล่อเลี้ยงหมดทั้งตัวเอง แล้วก็เสริมสร้างวิวัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ ก็เลยจำเป็นต้องกินข้าว นม โปรตีนคุณภาพดีที่ได้จากเนื้อปลา รวมทั้งผักผลไม้หลายสีเสริมให้มากยิ่งขึ้นกว่าปกติ
4.คนวัยแก่ เป็นช่วงๆวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายรวมทั้งจิตใจ สมรรถนะสำหรับเพื่อการปฏิบัติงานของอวัยวะต่างๆต่ำลง ก็เลยจำต้องกินอาหารที่ช่วยเสริมระบบการทำงานภายในร่างกายให้มากเพิ่มขึ้น อย่างเช่น ผักที่มีกากใยสูงอย่างผักบุ้ง ตำลึง ดอกสะเดา ผักกาดขาว เพื่อการขับถ่ายดียิ่งขึ้น เสริมแคลเซียมด้วยนม ดูแลกล้ามเนื้อและก็เพิ่มพลังงานให้ร่างกายด้วยข้าวซ้อมมือรวมทั้งเนื้อปลา เป็นต้น
อาหารเสริมกับสินค้าเสริมอาหาร ไม่ใช่ตัวเดียวกัน?
จากเนื้อหาสาระเกี่ยวกับอาหารเสริม อาจจะทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าใจในเรื่องความหมายและก็คุณประโยชน์แล้ว แต่ว่าด้วยเหตุว่าคำว่าอาหารเสริมถูกนำมาใช้ในหลายความหมาย กระทั่งพากันสงสัยว่ามีความหมายเดียวกับคำว่า “สินค้าเสริมของกิน” ซึ่งเรื่องจริงนั้นไม่ใช่ตัวเดียวกัน เพราะความหมายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมาจาก ผลิตภัณฑ์ที่ทานเสริมนอกเหนือจากของกินหลักที่ทานตามธรรมดาในแต่ละมื้อ มักเป็นสารสกัดที่มาจากพืช
องค์ประกอบของสัตว์ต่างๆหรือโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีสังเคราะห์ที่ร่างกายไม่สามารถทำขึ้นเองได้ ในลักษณะของแคปซูล หรือเม็ดอัดแข็ง สบายพกพารวมทั้งทานได้ง่ายดายเสียยิ่งกว่า ไม่อาจจะบำบัดรักษาหรือรักษาโรคได้เหมือนยา แต่รับประทานเพื่อบำรุงร่างกายเพียงแค่นั้น ซึ่งแตกต่างจากอาหารเสริมซึ่งสามารถหาได้ตามธรรมชาติและไม่ผ่านการสังเคราะห์
ผลิตภัณฑ์เสริมของกินดียังไงหากแม้ผลิตภัณฑ์เสริมของกินจะไม่ได้มีจุดประสงค์หลักเพื่อการดูแลและรักษาโรคต่างๆเสมือนยาทั่วๆไป แต่ว่าผลดีที่เราจะได้จากการทานเสริมคือ
1.เสริมการดูแลและบำรุงร่างกาย ปกป้องการเกิดโรคในอนาคต
2.ตอบแทนสารอาหารบางประเภทที่ร่างกายไม่สามารถที่จะผลิตขึ้นได้
3.ช่วยชะลอความเสื่อมถอยของขั้นตอนต่างๆในร่างกาย ให้ร่างกายดำเนินการได้อย่างมีคุณภาพ
4.เสริมการดูแลรักษาและบำรุงผิวพรรณให้ดีได้จากด้านในสู่ด้านนอกทั้งนี้ เพื่อการทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้ได้ผลดีและก็ไม่เป็นอันตรายกับร่างกาย ควรมองเครื่องหมายเครื่องหมายการยืนยัน อ่านคำเสนอแนะ องค์ประกอบต่างๆและควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีกินที่ถูก เพราะว่าบางตัวต้องทานพร้อมอาหารถึงจะได้ผลดี บางตัวต้องทานตอนท้องว่างเพื่อให้การดูดซึมซับที่ดียิ่งกว่า หรือบางตัวละลายได้ดิบได้ดีในไขมันก็จำต้องทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมันเล็กน้อยด้วยถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี
สินค้าเสริมของกิน (Dietary Supplement)
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้รับประทาน นอกเหนือจากการทานอาหารตามธรรมดา ซึ่งมีสารอาหารหรือสารอื่นเป็นส่วนประกอบ มักอยู่ใน รูปของเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น ซึ่งไม่ใช่รูปแบบของกินปกติ สำหรับผู้บริโภค ที่หวังผลดีทางผู้ส่งเสริมสุขภาพ ฉะนั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็เลยเป็นเพียงแค่อาหารชนิดหนึ่ง และก็อาหารย่อมไม่ใช่ยาที่จะไปรักษาโรคอะไรก็ตามได้การประชาสัมพันธ์ในเชิงช่วยรักษาโรคโรคมะเร็ง โรคอ้วน โรคกระดูกพรุน
จึงเป็นการประชาสัมพันธ์ที่กล่าวอ้างคุณประโยชน์เกินจริงแม้สินค้าเสริมของกินนั้นมีคุณประโยชน์ตามอ้าง ก็ควรจดทะเบียนเป็นยา ซึ่งจะมีการตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อพิสูจน์ว่าสินค้านั้นมีคุณประโยชน์ตามเจาะจงไว้ไหม (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 135 มี.ค. 2555 โดย กองบรรณาธิการ)กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีหลักเกณฑ์ รวมทั้งหนทางทำตามกฎหมายสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 293) พ.ศ.2548 เรื่องผลิตภัณฑ์เสริมของกิน ซึ่งได้ให้นิยาม ดังต่อไปนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กินนอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติซึ่งมีสารอาหารหรือสารอื่นเป็นองค์ประกอบอยู่ในรูปเม็ดแคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่น ซึ่งมาใช้แบบอาหารตามธรรมดา (conventional foods)ส่วนคำว่าสารอาหาร หรือสารอื่นในที่นี้ หมายถึง
1.วิตามิน กรดอะมิโน กรดไขมัน แร่ธาตุ และก็ผลผลิตจากพืชหรือสัตว์
2.สารเข้มข้น สารเมตาโบไลท์ ส่วนประกอบหรือสารสกัดของสารในข้อ 1
3.สารสังเคราะห์เอาอย่างตามข้อ 1 หรือข้อ 2
4.ส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างของสารใน (1), (2) หรือ (3)
5.สารหรือสิ่งอื่นที่อย.พินิจพิเคราะห์ระบุ
การเรียกชื่อ หรือขอบเขตของนิยามของสินค้าเสริมอาหารของแต่ละประเทศ
มีความไม่เหมือนกันตามแต่แนวนโยบายการควบคุมกำกับดูแลของประเทศนั้นๆตัวอย่างเช่น ประเทศอเมริกา ใช้คำว่า “Dietary Supplements” ประเทศแคนาดา ใช้คำว่า “Natural Health Products”ออสเตรเลีย ใช้คำว่า “Complementary Medicines” ประเทศในสหภาพยุโรปและก็องค์การอนามัยโลก ใช้คำว่า “Food Supplements”ซึ่งก็คือ วิตามิน ธาตุ รวมทั้งเกลือแร่แค่นั้น ส่วนประเทศจีนใช้คำว่า“Health Food Products” เป็นต้น
มองจากทรรศนะแพทย์แผนจีนระบบการย่อย
การดูดซึมของกินไม่มีระเบียบ ไม่มีกฎระเบียบ เกิดจากการกินของกินจุบจิบ ตามอารมณ์แนวความคิดเกี่ยวกับของกินแล้วก็อาหารสุขภาพของแพทย์ตามแนวความคิดตะวันตก ซึ่งพัฒนาจากการศึกษาค้นคว้าวิจัย โดยประมาณ ๖๐-๗๐ ปีที่ล่วงเลยไป โดยศึกษาหัวข้อต่างๆดังนี้
1. สารอาหารเป็นองค์ประกอบของโครงสร้างต่างๆของร่างกาย ทำให้สามารถรู้เรื่ององค์ประกอบชีวโมเลกุลของเซลล์ เยื่อ และก็อวัยวะต่างๆได้ จึงจัดสารอาหารเป็นหมวดหมู่ เช่น คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เกลือแร่ วิตามิน ฯลฯ
2. สิ่งที่จำเป็นของสารอาหารที่เข้าไปมีส่วนสำคัญในวิธีทำงานของระบบต่างๆของร่างกาย ตัวอย่างเช่น โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ฮอร์โมน สารคัดหลั่งต่างๆล้วนมีส่วนประกอบหรือองค์ประกอบของสารอาหารทั้งหมด
3. กลไกการเมแทบจะบอลิซึมระดับเซลล์หรือในกรรมวิธีการเผาผลาญให้ได้พลังงานและก็การกำจัดทิ้งของเสีย ก็อาศัยสารอาหารต่างๆที่เปลี่ยนเข้าเกี่ยว
4. มีความเจริญในการศึกษาสารอื่นๆที่ไม่ใช่สารอาหารแต่ว่าอยู่ในของกิน และมีฤทธิ์เป็นยา มีหน้าที่ในการปรับสมดุลของร่างกาย หรือคุ้มครองการเกิดโรค (แนวความคิดนี้เริ่มสอดคล้องกับแพทย์แผนจีนที่ว่าอาหารและยามาจากแหล่งเดียวกัน ของกินก็คือยา)
5. ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตการประสมประสาน สารอาหารแบบแผนปัจจุบันกับสารที่ไม่ใช่อาหารแต่ว่ามีฤทธิ์ทางยา รวมทั้งสารสกัดสมุนไพร เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับการป้องกันโรคหรือมานะใช้อาหารธรรมชาติเป็นยาสำหรับเพื่อการรักษาโรคเพื่อตอบแทนหรือ ลดจำนวนการใช้ยาเคมี (ซึ่งมีฤทธิ์ตกค้างรวมทั้งผลแทรกซ้อนมาก)