ดราก้อน เควสท์ ชนโรง
ดราก้อน เควสท์ ชนโรง Dragon Quest Your Story สนุกสนานไหมตรงนี้จะต้องชี้แจงก่อน เพื่อให้หลายๆคนรู้เรื่องว่า ทำไมการดัดแปลงแก้ไขจากฉบับเกมสู่หนังอนิเมชั่นของ Dragon Quest Your Story จึงโดนคาดหวังสูง แล้วเพียงพอมันออกมาไม่ถูกความมุ่งหวังของแฟนคลับในทางการดัดแปลงบางจุดและก็ผลสรุป ถึงทำให้โดนวิจารณ์สกปรกที่ประเทศญี่ปุ่น Dragon Quest เป็นเกมแนว RPG Role Playing Game ที่มีแฟนระดับเดนตายอยู่ทั้งยังในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งหลายประเทศทั้งโลก ถึงแม้ว่าในรูปภาพรวมแล้วจะแฟนเกมนี้นอกประเทศญี่ปุ่นจะน้อยกว่าเกมเครือญาติ Final Fantasy ที่เป็นคู่แข่งกันมายาวนาน แล้วในตอนนี้ก็มาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันภายหลังจากสองบริษัทผู้ให้กำเนิดอย่าง Enix และ Square ได้รวมธุรกิจการค้ากันและจากนั้นก็ตามซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา Dragon Quest หรือ DQ หรือที่แฟนญี่ปุ่นเรียกกันว่า ดราเก้ ดราก้อน เควสท์ จะเป็นที่ตอบรับแล้วก็เป็นที่นิยมในประเทศสูงยิ่งกว่า FF ในระดับหนึ่ง ยิ่งบางภาค มียอดจำหน่ายสูงเป็นระดับประวัติการณ์ ทั้งๆที่ในด้านของ CG กราฟฟิค แล้วก็ตัวเกม DQ ยังคงเลือกทำเกมแนวอนุรักษ์นิยม จะกี่ภาคก็เซตติ้งโลกในเกมเป็นแนวยุคกลางมาตลอด ไม่มีแปลง ระบบเกมก็เป็นแบบเดิมๆหน้าจอรายการอาหารเรียบง่ายแบบเดิมๆตั้งแต่ภาค 1-7 ดั้งเดิมเป็นแค่หน้าจอวินโดว์แล้วก็ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ชี้แจงเรื่องราวหรือไอเท็มต่างๆไม่มีแม้กระทั่งภาพอธิบายไอเท็ม ดาบ ชุดเกราะ ใดๆก็ตามทั้งนั้น ตัวเกมกว่าจะยอมมาทำภาพไอคอนและก็เปลี่ยนแปลงหน้าจอเมนูให้เป็นแบบโมเดิร์น ก็ในเวลาที่มาทำภาค 8 ซึ่งเริมทำออกมาเพื่อโกอินเตอร์ ในตอนที่ FF บุกไปตลาดโลกมานานกว่า แต่ฝั่ง DQ เพิ่งจะเริ่มทำจริงๆจังๆเมื่อราวสิบปีนี้เอง ซึ่งช้ากว่ามากมายแต่ว่าโน่นก็แสดงว่า การปรับเปลี่ยน DQ เป็นฉบับอนิเมชั่นแบบ 3D แถมทาง Netflix ยังไปซื้อเพื่อมาฉายทางสตรีมมิ่งของตัวเองอีก นี่ย่อมเป็นสิ่งที่แฟนทั่วทั้งโลกจับตา เนื่องจากนี่จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของ DQ ให้มีความ MASS ในสุดยอดมากขึ้นไปด้วยส่วนเนื้อเรื่องของภาคที่ถูกเลือกมาดัดแปลงอนิเมชั่นนี้ก็คือ ภาค Dragon Quest V : Hand of The Heavenly Bride หรือ ดรากอนเควสต์ ภาค 5 เจ้าสาวที่สวรรค์
คนจำนวนไม่น้อยอาจสงสัยว่า แล้วเพราะอะไรควรเป็นภาคนี้ด้วย
เพราะว่านี่คือภาคที่มีรายละเอียดดีเยี่ยมที่สุด ประทับใจ ลึกซึ้ง มีตัวละครที่แฟนคลับถูกใจและยังเป็นที่ประทับใจสำหรับแฟน DQ มากที่สุด จนถึงทุกวันนี้ แล้วในหลายสำนักเองก็จัดให้เกมภาคนี้มีรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมติดอันดับต้นๆถึงแม้ว่าตัวเกมที่ทำลงเครื่อง SFC ในสมัยก่อน จะยังมีกราฟฟิกที่ดูธรรมดามากถ้าหากเทียบกับในสมัยนี้ก็ตาม แต่ก็มีการรีเมคเกมฉบับนี้ลงในเครื่อง DS และสามารถโหลดมาเล่นบน iOS ได้แล้วด้วย (ผู้เขียนก็เล่นจบไปหลายรอบ)
สำหรับหนึ่งในเรื่องที่แฟนเกมหลายคนชอบกันมากมายเกี่ยวกับภาคนี้ก็คือ นี่เป็นเกม DQ ภาคเดียวที่พวกเราสามารถเลือกสมรสกับเจ้าสาวใครก็ได้ จากตัวเลือกสองคนคือ ดราก้อน เควสท์ ชนโรง เบียงก้า แล้วก็ ฟลอร่า (ซึ่งต่อมาในเกมฉบับรีเมคจะมีเพิ่มเดียโบล่าเข้ามาอีกคน)ทั้งคู่สาวน้อยก็จะมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน จนคนเล่นมักกำเนิดอาการรักพี่เสียดายน้องที่จะจำเป็นต้องแต่งคนหนึ่งแล้วทิ้งอีกคนไป
แม้กระนั้นก็ทำให้นี่เป็นสีสันของเกมที่มีเสน่ห์มากมาย รวมทั้งในหนังประเด็นนี้ก็เอาปัญหาที่คนเล่นชอบลังเลที่สุดนี้มาใส่เสมือนจะยั่วล้อคนเล่นไปด้วยว่า เออ เล่นรอบนี้ จะเลือกคนไหนกันแน่ดีแล้วในหนังเองก็ทำซีนเดี๋ยวนี้ออกมาได้ดีเกินคาดมากมายนะครับ ฉากเลือกเจ้าสาวนี่เองที่อาจจะเป็นซีนที่เหมาะสมที่สุดในเรื่องเลยก็ได้อีกจุดเป็น นี่ยังเป็นเกมภาคที่ พระเอกไม่ใช่ผู้กล้าที่ถูกเลือก แต่กลับหักมุม เปลี่ยนเป็นลูกชายผู้แสดงนำชายต่างหาก ทำให้ตัวเกมเป็นที่จำ แล้วก็ตัวเอกของภาคนี้ก็ได้อารมณ์ของผู้ที่จะต้องบากบั่นเริ่มเดินทางด้วยกำลังตนเองจริงๆ
ในรูปภาพรวมแล้ว ในเมื่อมันเป็นภาคที่แฟนคลับชอบมากขนาดนี้
เมื่อถูกเอามาปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเป็นอนิเมชั่น แล้วพบว่า มีการเปลี่ยนและตีความหมายใหม่หลายๆอย่าง ไปจนกระทั่งการดีไซต์ตัวละคร กับการแปลความลักษณะท่าทางนักแสดงสำคัญบางคนที่แปรไปจากของเดิม ไปจนกระทั่งขั้น “ตัดนักแสดงสำคัญ” ที่มีหน้าที่ในตัวเกมออกไปแล้วที่นอกนั้นคือ “ฉากในที่สุดในเรื่อง” ที่มีการเฉลยเรื่องราวในอนิเมเรืองนี้แบบหักมุมจำพวกมากกว่า 360 องศา หากว่าเอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หักมุมหนักขนาดนั้น
เพราะว่าเมื่อมองไประยะหนึ่ง หลายๆคนอาจจะเริ่มสงสัยรวมทั้งมองออก แต่ว่ามันก็ทำให้แฟนๆเกมนี้ปริมาณมากมายที่มีความมุ่งหวังว่าจะได้เข้ามามองเรื่องราวของ DQ 5 ในแบบอย่างอนิเมชั่น จำต้องผิดหวังไปตามๆกัน จนถึงก่อให้เกิดการติชมชนิดสับแหลกในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วนี้เองที่ทำให้น่าเสียดายว่า เนื่องจากว่าตัวเรื่องทำลายความมุ่งมาดของแฟนๆแต่ที่จริงตัวอนิเมชั่นในรูปภาพรวมแล้ว ดราก้อน เควสท์ ชนโรง จะจัดว่ามีคุณภาพที่ดีในระดับหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นงาน CG กราฟฟิค โมชั่น การเคลื่อนไหว ที่ทำออกมาได้ดี ไปจนกระทั่งการเนรมิตฉากแอ็กชั่นจากในเกมแล้วก็ฉากการใช้เวทมนต์และอาคมๆต่างที่แฟนเกมเคยชินให้ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว จะทำได้ดีพอสมควร รวมทั้งเพลงประกอบ สกอร์ OST ต่างๆที่เป็นเพียงแต่ประจำของเกมซีรีส์นี้ที่เขียนโดยสุดยอดวาทยากรระดับปรมาจารย์อย่าง โคอิจิ สุงิยามะ แต่ละเพลงก็เข้าในแต่ละฉากได้ถูกจังหวะ
ทั้งในทางของการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขบทและก็เนื้อเรื่องให้เกมให้มีความกระชับและเล่าเรื่องราวในฉากสำคัญๆต่างๆให้อยู่ภายในช่วงเวลาจำกัด จะทำได้ระดับที่ดี โดยยิ่งไปกว่านั้นในตอน 5 นาทีแรกของการเปิดเรื่อง มั่นใจว่าแฟนเกมทุกคนจะต้องยินดีรวมทั้งยินดีแน่นอนแต่แล้วทุกสิ่งมันสวนทางไปเลยสำหรับ 5 นาทีท้ายที่สุดเสียอย่างนั้น (ในขณะนักเขียนเองเพียงพอรับกับตอนจบแบบงี้ได้ แต่ว่าที่เกลียดชังที่สุดเป็น ตัดบทบุตรสาวฝาแฝดทำไม เพราะในฐานแฟนเกมนี้ก็อยากเห็นภาพสมาชิกครอบครัวของตัวเอกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาบนตัวภาพยนตร์สักครั้ง)
สำหรับผลสรุปอย่างงี้ แฟนๆบางครั้งอาจจะมีความรู้สึกว่า
ทีมสร้างจะเลือกพรีเซนเทชั่นหักมุมอย่างนี้เพราะอะไร แม้กระนั้นคนเขียนเองก็รู้เรื่องนะ เนื่องจากในความเป็นจริงแล้ว ชื่อเรื่องของหนังมันก็บอกอยูแล้วว่า Dragon Quest Your Story “แสดงว่านี่คือเรื่องราวของคุณ” ซึ่งประเด็นนี้ก็ตรงกับคอนเซปต์ของเกม DQ ทุกภาคที่ปรารถนาทำเกมออกมาเสมอเหมือนให้คนเล่นได้สวมตัวเองลงไปรับบทบาทเป็นผู้กล้าหรือตัวนำในเกม ด้วยเหตุนี้ตัวเอกของเกม DQ จะไม่มีบทพูด
แม้กระนั้นจะมีเพียงแค่ให้พวกเราเลือกตอบปัญหาเท่านั้น เพื่อที่จะได้ให้พวกเราสวมบทบาทตนเองเข้าไปได้อย่างไม่ยากเย็นตัวหนังเองก็ทำออกมาเจตนาสื่อตัวสารนี้ให้คนดู อารมณ์เหมือนเป็นการส่งสารอะไรบางอย่างจากกลุ่มสร้างแต่ว่าว่าตามตรงว่า ใครอีกหลายๆคนไม่บางทีอาจชอบ เนื่องจากนักเขียนก็พอจะความหวังของแฟนเกมนี้ส่วนใดส่วนหนึ่งเหตุว่า ต้องการเข้าไปมองเห็นเรื่องราวของเหล่าตัวละครใน DQ 5 ที่พวกเขารัก
โลดแล่น มีชีวิตบนอนิเมชั่น ไม่ต้องการจะมาดู คนใดก็ไม่รู้ (ผู้แทนแฟนๆ) เล่นเกมให้เราดูอีก ที่ตรงนี้เลยน่าจะเป็นสาเหตุของการเช็ดกวิจารณ์สับเปรอะขอรับ ดราก้อน เควสท์ ชนโรง ซึ่งก็เริ่มเข้าใจแฟนคลับของ DQ ได้เลยรีวิว+สปอยล์ Dragon Quest Your Story Netflix ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงจากเกมได้เชิญคิดถึง แต่ว่าสมกับถูกวิภาควิจารณ์เละ 7สรุปในภาพรวมแล้ว นี่เป็นอนิเมชั่นที่ดี มีคุณภาพ
รายละเอียดสนุกสนาน เพลงประกอบจากเกมที่ชักชวนนึกถึงสุดเพราะและก็กับแต่ละฉากมาก ฉากแอ็กชั่นตอนสู้กับมอนสเตอร์และการใช้เวทมนต์ทำเป็นโอเค มีความอุตสาหะที่จะดัดแปลงแก้ไขเรื่องราวจากในเกมมาลงในภาพยนตร์อนิเมชั่นได้อย่างดียิ่ง ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงหลายจุดจะน่าขัดใจเอามากๆแถมตอนสุดท้ายยังทำออกมาแบบที่คนรังเกียจก็จะเกลียดไปเลยแม้กระนั้นสรุปว่าในรูปภาพรวมแล้ว นี่คือหนัง DQ ที่แฟนๆควรจะมอง เพราะเหตุว่าถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้ จะมีหลายฉากที่คุณต้องร้องว้าวไปกับมันแน่นอน เป็นการทำหนังที่มีกลิ่นอายแบบ Nostagia สำหรับคนในวัย 30-50+ พอเหมาะพอควรเลย แต่สุดท้ายแล้วคนดูจะถูกใจหรือเปล่า ชี้แนะว่าต้องตัดสินเองครับ ซึ่งก็เข้าฉายแล้วใน Netflix สามารถรับดูได้เลย
หลังจากเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นกันไปที่ผ่านมา ล่าสุด DEX Club และ AIS
ก็ได้จับมือกันร่วมนำอนิเมะเวอร์ชั่นรีเมค Dragon Quest: The Adventure of Dai หรือ ‘ได ตะลุยแดนมนตร์’ มาเปิดให้ดูกันฟรีแล้วบนแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ AIS Play โดยมีชื่อว่า ‘ดราก้อนเควสท์ การเสี่ยงภัยอันยิ่งใหญ่ของได’ รวมทั้งรองรับดูดซึมไตเติ้ลภาษาไทย กับเสียงบรรยายภาษาญี่ปุ่นดราก้อนเควสท์ การเสี่ยงภัยอันยิ่งใหญ่ของได เข้าฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นตอนวันที่ 3 เดือนตุลาคม 2020 ก่อนหน้านี้ โดยมีเนื้อหาอ้างอิงมาจากมังงะเวอร์ชั่นต้นฉบับ แล้วก็ประสมประสานกราฟิกแบบสองมิติกับคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน เรื่องราวเกี่ยวพันกับหนุ่มน้อยชื่อว่า ‘ได’ แล้วก็มีเชื้อสายที่อัศวินมังกรที่มีความต้องการอยากจะเป็นฮีโร่ ซึ่งได้ออกเสี่ยงภัยเพื่อปราบเหล่าปีศาจร่วมกับเหล่าสหายๆในการเดินทางสุดแฟนตาซี
อนิเมะ Dragon Quest: The Adventure of Dai – ดราก้อนเควสท์
การเสี่ยงอันตรายอันยิ่งใหญ่ของได บน AIS Play จะมาพร้อมเนื้อหาครบทั้งหมดทั้งปวง 26 ตอนในซีซันแรก ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นโอกาสที่ดีที่แฟนๆจะได้กลับไปสนุกกับเหล่าฮีโร่ตัวจิ๋วอีกรอบในกราฟิกที่ล้ำยุคกว่าเดิม แถมยังเปิดให้ชมใกล้ตอนวันหยุดสงกรานต์ให้พวกเราได้สนุกสนานกันที่บ้านด้วย สุดท้ายหากมีความคืบหน้าหรือเรื่องราวใหม่ๆที่่น่าดึงดูดเช่นไร ThisIsGame Thailand ก็จะไม่ลืมมาแบ่งปันกันที่นี่อีกรอบเหมือนปกติครับ