Kingdom Ashin of the North (2021) ล่าสุด
Kingdom Ashin of the North (2021) ล่าสุด สังหารทุกคนบนแผ่นดินโชซอนมันเป็นวันที่สลดอีกวันหนึ่งในชีวิตของหญิงคนหนึ่ง อาชินเดินอย่างสิ้นหวังกลับเข้ามาที่ค่ายทหาร ตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่กองทหารกำลังเดินทัพเพื่อไปรบกับพวกญี่ปุ่นทางตอนใต้ เธอได้มองเห็นลูกธนูของแม่ทัพที่ชูพาจินเช่นเดียวกับลูกธนูที่ปักอยู่ที่หลังของหนึ่งในผู้ที่ถูกสังหารหมู่ในป่าพเยซากุนเมื่อนานมาแล้ว มันทำให้คุณกำเนิดเอะใจบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาอาชินอาศัยจังหวะตอนนี้ที่มีทหารประจำการในค่ายไม่มากมาย เนื่องจากทหารส่วนใหญ่จำต้องออกไปช่วยรบทางตอนใต้ คุณแอบเข้าไปห้องหนังสือของรองแม่ทัพตรวจดูหนังสือราชการเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงบางสิ่ง แล้วคุณก็พบว่าผู้ที่ชี้เป้าให้พวกพาหน้าจอวีมาฆ่าท่านพ่อและสังหารยกหมู่บ้านของเธอก็คือรองแม่ทัพ คนที่คุณวิงวอนให้ช่วยเอาคืน กลายเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความแค้นนี้เสียเอง !!!มันเป็นการหาแพะรับบาปเพื่อปัดความผิดให้พ้นโชซอนของรองแม่ทัพที่ยกพาจิน … อาชินโดนหักหลัง … ณ ปัจจุบันนี้คุณทราบแล้วว่าศัตรูตัวจริงที่เธออยากแก้แค้นเป็นคนไหนกัน และก็การแก้เผ็ดของเธอมันคือการสังหารทุกคนบนแผ่นดินโชชอน !จอนจีฮยอนสมุนไพรฟื้นคืนชีพผู้ตายอาเคยชินใช้สมุนไพรคืนชีพผู้ตายกับทหารด้านในค่าย ในเวลาไม่เกินสองชั่วโมง Kingdom Ashin of the North (2021) ผีดิบซอมบี้ก็เริ่มแพร่จากหนึ่งแปลงเป็นสองสามสี่ห้า ผู้ที่มีชีวิตก็เพียรพยายามหนี ในขณะที่อาเคยชินยืนอยู่บนหลังคารอเล็งธนูด้วยสกิลระดับเทวดากวาดพวกที่กำลังจะหนีออกนอกค่ายครั้งละคนๆบริเวณใบหน้าแล้วก็ทีท่าของเธอนั้นสุขุมเสมือนผู้ที่ไม่มีหัวใจหลังจากอาคุ้นชินจัดการทหารในค่ายจนถึงกลายเป็นศพไปทั้งหมดแล้ว เธอก็เดินทางกลับไปที่หมู่บ้านของเธอ โดยลากข้าวของบางอย่างใส่กระสอบไปด้วย แล้วภาพที่น่าตกใจก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเมื่อคุณเปิดประตูบ้านของคุณ ผีดิบซอมบี้ซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ภายในครอบครัวของเธอโดนจับตรึงด้วยตรวนเอาไว้ ก่อนที่จะเปิดกระสอบออกมา เป็นร่างที่ไม่มีแขนขาของทหารผู้ที่ขืนใจเธอมาตลอด แล้วอาคุ้นชินก็เอ่ยขึ้นมาว่า “จากนี้เป็นต้นไปข้าจะเลี้ยงพวกท่านด้วยสิ่งนี้ !”ที่จริงแล้ว อาชินใช้สมุนไพรฟื้นคืนชีพผู้เสียชีวิตกับคนภายในครอบครัวของเธอ แล้วล่ามเอาไว้ให้อยู่แม้กระนั้นภายในบ้านตั้งแต่ที่พวกเขาตายในคืนนั้นหลังจากนั้น อาชินไปยังวังหลวงเพื่อเสนอสมุนไพรฟื้นคนเสียชีวิตให้กับท่านทูต แล้วเรื่องก็ไปบรรจบในตอนเริ่มต้นของซีรีส์ Kingdom ซีซั่น 1ในตอนท้ายของซีรีส์ อาเคยชินยืนง้างธนูเจอหน้ากับพวกพาจอวีที่ขี่ม้าผ่านมา … ปูทางไปสู่ภาคต่อในจักรวาล Kingdom ต่อไป โปรดติดตาม
รีวิวหนัง(มองฟรี) ละติจูดที่ 6 (2015) – หนังรักดราม่า
ที่มีเรื่องราวชีวิตสามชายแดนใต้เป็นแบ็คกราวด์ละติจูดที่ 6 Latitude 6 ภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าที่ถ่ายทำในจ.ปัตตานี พรีเซนเทชั่นมุมมองใหม่ของคนภาคใต้ ผ่านความรัก ความเชื่อ อำนวยการสร้างโดย UCI Media ดูแลภาพยนตร์โดย เจมส์ ธนดล นวลสุทธิ์ นำแสดงโดย ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล , โบว์ลิ่ง ปริศนา , เม้าส์ ณัฐชา , มายด์ วิรพร , ใยไหม ชินารดี
แล้วก็บ่าววี (พันจ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์)ละติจูดที่ 6 เริ่มเรื่องราวที่ “ต้น” (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล) ชายหนุ่มกรุงเทพที่มีเหตุให้ต้องย้ายมาปฏิบัติงานที่ปัตตานี เขาเดินทางมาพร้อมกับหลานสาว “ฝ้ายฟู” (ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ น้องใยไหม) เขามีความหวั่นวิตกอยู่บ้างกับข่าวความไม่สงบในภาคใต้ แล้วก็ยังไปตกหลุมรักกับ “ฟ้า” (โบว์ลิ่ง ปริศนา กัมพูสิริ)
ครูสาวชาวมุสลิมที่อยู่โรงเรียนประถมศึกษาของฝ้ายฟู โดยมีปัญหาสำคัญคือ “อาจารย์ฮัตซัน” (สหัสชัย ชุมรุม) บิดาของฟ้า เขาเป็นมุสลิมที่เคร่งในศาสนามากมาย และไม่ต้องการที่จะให้บุตรสาวข้องแวะกับชายหนุ่มนอกศาสนารวมทั้งเรื่องราวรักสามเส้าของ “ชารีฟ” (เม้าส์ ณัฐชา) ชายหนุ่มนักกีฬาปันจะสีลัตของสถานศึกษาที่หลงรักเพื่อนซี้อย่าง “เฟิร์น” (มายด์ วิรพร)
เด็กผู้หญิงนักจัดวิทยุชุมชน ซึ่งเพื่อนของเขาอีกคน ก็ดันตกหลุมรักเฟิร์นด้วยเช่นกันรีวิวหนัง The VVitch เดอะ วิทช์- หนังที่เล่าราวของแม่มดสุดเรียล พร้อมบรรยากาศชวนสยดสยองทั้งยังเรื่องรีวิวหนัง MA แม่_ร้าย (2019) – เมื่อแม่ไม่แสนดีอย่างที่คิด หนังสยองขวัญสุด Weird ลุ้นตั้งแต่ต้นกระทั่งจบรีวิวหนัง(ดูฟรี) มือปราบสัมภเวสี THE LOST CASE (2017) – จากเคสหลอนในรายการ
สู่หนังผีไทยแนวใหม่!ละติจูดที่ 6 ภาพยนตร์ไทยโรแมนติกดราม่าที่มีเรื่องราวชีวิตในสามจังหวัดชายแดนใต้เป็นแบ็คกราวด์ มั่นใจว่าเมื่อได้ยิน “สามจังหวัดชายแดนใต้” คนไทยอย่างพวกเราๆก็รู้สึกพอใจสำหรับการเล่นประเด็นนี้ เพราะว่าเป็นหลักสำคัญที่ร้ายแรงและก็วิจิตรบรรจง ไม่ค่อยได้มองเห็นคนทำหนังบ้านพวกเราถือจับเรื่องราวนี้ขึ้นมาเล่าถึงสักเท่าไหร่ จะมีอย่าง
โอเคเบตง ซึ่งก็เมื่อนานมาแล้ว หนังประเด็นนี้จึงเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากมายสิ่งที่น่าชื่นชอบ คือ การเล่าเรื่องผ่านสายตาของตัวพระเอก ในฐานะชาวกรุงเทวดาฯ ซึ่งเป็นผู้แทนความรู้สึกของเหล่าผู้ชมจำนวนมากที่จะมีความหวั่นวิตกแบบเดียวกันถ้าต้องเข้าไปอยู่ในพื่นที่เสี่ยงนี้ และก็มีการพรีเซ็นท์เรื่องราวของขาวไทยพุทธกับไทยมุสลิมได้อย่างลงตัว
โดยถือเอาชีวิตของคนกลุ่มหนึ่งมาเล่า เพื่อปรับมุมมองว่าราษฎรยังคงใช้ชีวิตอยู่ได้ออกจะเป็นปกติ และไม่ได้อันตรายอย่างที่ทุกคนคิด พร้อมกับฉากโลเคชันสวยๆในเรื่อง ที่จำเป็นต้องบอกเลยว่า งามจริงๆด้านการแสดง ขอชื่นชอบนางเอกของเรื่อง โบว์ลิ่ง ปริศนา (นางสาวไทยปี 2555) โดยยิ่งไปกว่านั้นซีนดรามาเรียกน้ำตา นับว่าผ่านฉลุยสำหรับเพื่อการแสดงเรื่องแรกแต่ส่วนที่ผิดหวังที่สุดเป็นหัวข้อการพรีเซ็นท์ที่อ่อนเหลือเกิน
เนื่องจากว่าสิ่งที่คนดูคาดหมายจากการดูหนังหัวข้อนี้เป็นความดราม่าจัดหนัก หรือหลักสำคัญความไม่ถูกกันที่ใหญ่มากยิ่งกว่านั้น หนังเลือกที่จะเล่าเพียงแค่การขัดกันระดับบุคคลเพียงแค่นั้น อย่างการรักข้ามศาสนา หรือความใฝ่ฝันในชีวิต แม้กระนั้นแม้ให้มองอีกมุมว่านี่เป็นเรื่องราวความรัก วัฒนธรรม และก็วิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ก็ยังเป็นการเล่าแบบผิวเผิน
ไม่เคยทราบสึกอินอะไรก็ตามบางสิ่งถูกจับใส่เข้ามาแบบแออัดยัดเยียด Kingdom Ashin of the North (2021) ล่าสุด รุงรังไปหมด บทและก็การเล่าเรื่องขาดกลเม็ดเด็ดพราย ทั้งความรัก ความขัดแย้ง มองมึนงงๆเสมือนพามาหลงอยู่ในจังหวัดปัตตานีสรุปแล้ว ละติจูดที่ 6 เป็นหนังรักที่มีเรื่องมีราวราวชายแดนใต้เป็นแบ็คกราวด์ โปรดักชันดี ภาพงาม ฉากระเบิดใหญ่สมจริง สิ่งที่คิดว่าต้องเห็น คุณจะได้เห็นมันทั้งปวง อีกทั้งระเบิด ฝุ่นละอองควันเถ้าถ่าน ทหาร รถถัง คนมุสลิมโพกผ้า วัฒนธรรมที่น่าละลานตา วิถีชีวิตยามเช้า เป็นหนังที่มีของดีๆอยู่ในมือค่อนข้างมากมาย แต่ประยุกต์ใช้ได้โคตรเสียดายของ
ว่าช่วงท้ายๆปี ควรจะมีหนังรักๆรอมคอม อะไรแนวนี้เข้ามาตอนนี้เสมอ ซึ่งภาพยนตร์ไทยก็มีไปละ โอกาสนี้มาหนังต่างแดนบ้าง กับเรื่อง ซึ่งไม่รู้เรื่องว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งมั่น เพราะว่าข้อความสำคัญอะไรบางอย่างของตัวนางเอกช่างดังใน ฮาร์ทบีท เสียอย่างยิ่ง เป็นเรื่องราวที่ได้แรงจูงใจมาจากเพลงสุดคลาสสิค
ของ George Michael กับเรื่องราวของหญิงสาวที่ได้ได้รับอุบัติเหตุเมื่อวันคริสต์มาสปีที่ผ่านมา แล้วก็เธอก็เริ่มแปลกไป จนถึงคุณได้มาเจอกับผู้ชายผู้ดูเลิศเพอร์เฟ็ค ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เลยเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆกับชีวิตเธอที่แปรไปตัวหนังไม่มีอะไรซับซ้อน ดำเนินเรื่องกล้วยๆรู้เรื่องไม่ยาก เพลิดเพลินๆเรื่อยภาพรวมมันก็โอเคนะ มิได้หวานจนถึงมัน
ซึ้งจนถึงร้องไห้ หรือดราม่าจนร้องไห้คร่ำครวญ แม้กระนั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมันจะอยู่กลางๆหมดเลย เพียงพอหนังดำเนินไปเรื่อยๆมาถึงจุดนึงพวกเราจะจับทางได้ละว่า “มันควรเป็นแบบนี้แน่นอน” แล้วก็มันก็เป็นอย่างที่เราคิดจริงๆแบบไม่มีผิดเพี้ยน แปลงเป็นทายใจเรื่องออกกล้วยๆเลย แถมยังมีประเด็นหลายๆส่วนที่นั่งคิดหลายๆครั้ง ก็มองไม่เห็นจำเป็นจะต้องมีเลยด้วยซ้ำ
ใส่เข้ามาโดยไม่จำเป็น และไม่ได้ส่งผลอะไรกับหนังเลย หนังแสดงด้วยศิลปินมีชื่อเยอะแยะไล่ไปตั้งแต่คู่พระ-นาง Emilia Clarke, Henry Golding ตามมาด้วย Michelle Yeoh และก็ Emma Thompson แต่ว่ารู้สึกว่าหนังใช้ดาราพวกนี้ไม่คุ้มเลยจริงๆแต่ละคนมีความรู้และความเข้าใจและความสามารถที่สามารถแสดงอะไรออกมาได้มากกว่านี้มาก
รีวิว Jumanji: The Next Level – เกมดูดโลก ตะลุยด่านมหัศจรรย์
Jumanji: The Next Level มันเป็นภาคต่อของ Jumanji: Welcome to the Jungle ที่ยกทัพผู้แสดงหลักเดิมมาอย่างครบชุด โดยในภาคนี้ Spencer ดันไปซ่อมเครื่องรวมทั้งโดนดูดเข้าไปในเกมอีกรอบ
ทำให้ที่เหลือต้องเข้าไปช่วยเหลือเขาออกมา แม้กระนั้นในครั้งนี้ปู่และก็เพื่อของปู่ Spencer ดันเข้ามาในโลก Jumanji ด้วย ทำให้ทั้งผองต้องออกผจญภัยไปในด่านใหม่ที่ไม่เคยพบเคยพบมาก่อนเอาตรงๆเพียงแค่เหตุผลในการเริ่มเข้าไปใน Jumanji
อีกทีมันก็ไม่มีน้ำหนักมากพอแล้วอะ เสมือนภาคนี้พากเพียรเพิ่มหัวข้อความดราม่าเข้ามา หลักสำคัญครอบครัว แบบเล่นท่ายากเกินไป โดยไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ แต่แน่นอนว่าความบันเทิงใจ
ความขำขัน ความเบิกบานใจ Kingdom Ashin of the North (2021) พากไทย ยังคงเสิร์ฟให้ผู้ชมอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง The Rock, Kevin Hart รวมทั้ง Jack Black ที่ฮาจริง เนื่องจากว่าคาแรคเตอร์ของทั้งยัง 3 แปร
ไปจากเดิมด้วย The Rock ต้องมาเป็นปู่ Spencer กระทำตัวงงงวยๆไม่ค่อยได้ยิน กราดเกรี้ยว ทางด้าน Kevin Hart จำเป็นต้องมารับบทเป็นเพื่อนของปู่ Spencer ที่บอกช้าๆแต่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด แล้วก็ Jack Black จำเป็นต้องกลายเป็นเพื่อนพ้องผิวสีขี้โวยวาย ซึ่งทั้งยัง 3 ยังคงเรียกเสียงหัวเราะได้ดีจริงๆแล้วก็แน่นอน Karen Gillan
ยังคงน่าดูทุกท่วงทีการเคลื่อนไหวแบบละสายตามิได้จริงๆแต่อย่างไรก็ตาม ภาคก่อนยังฮากว่า ตัวละครแต่ละตัวมันมองเฮฮากว่าอะ สนุกกว่า ด้วยส่วนประกอบหลายๆอย่าง หนังมีการเดินเรื่องง่ายๆไม่ต่างจากภาคแรก เพียงแต่ภารกิจไม่เหมือนกันออกไปแค่นั้น รวมทั้งเรื่องราวมันอ่อนกว่าภาคแรกมากเลย ทุกสิ่งดูแบบ แก้ไขปัญหากันง่ายอย่างยิ่งอย่างมาก
แถมมันยังไม่รู้จักสึกถึงการเสี่ยงภัยสักเท่าไหร่ รวมทั้งตอนสุดท้ายที่แบบ เอ๊า แค่เนี้ยอะนะสรุปแล้ว Jumanji: The Next Level น่าจะเป็นภาคที่อยากได้กลับมาเพื่อให้หายคิดถึง เรียกแฟนๆมองได้เครียดลดลงไปเพลิดเพลินๆแหละ แต่สิ่งที่น่าดึงดูดคือหนังมีฉาก Mid Credit ที่ปูไปภาคต่อได้อย่างน่าติดตามจริงๆ
กลับสู่หน้าหลัก https://moonbigpapi.com/